สพฐ. ย้ำ แบบเรียนไข่ต้ม อยากสื่อ ความแร้นแค้น

[Fern751]

สพฐ. ย้ำ ตำราเรียนไข่ต้ม ต้องการสื่อ ความยากจน ไม่ว่าจะกินอะไร ก็แฮปปี้ได้ จนถึงพร้อมรับฟังทุกข้อคิดเห็น ชี้ปรับแก้ทุก 10 ปี

วันที่ 24 เม.ย.2566 นายอัมพร พิทุ่งนาสะ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาเล่าเรียนเบื้องต้น (กพฐ.) เผยกรณีโลกออนไลน์ติชมหนังสือเรียนหนังสือภาษาไทยพาที ระดับชั้น ป.5 ซึ่งมีเนื้อหาว่า รับประทานไข่ต้มครึ่งส่วน เหยาะน้ำปลา หรือข้าวไม่คลุกน้ำผัดผักบุ้ง ทำให้ตัวละครในหนังสือแฮปปี้ ถือเป็นการพอเพียง เห็นค่าของชีวิตนั้น ว่า การจัดการศึกษาวิชาต่างๆจะมีแผนในการจัดการศึกษาอยู่ ซึ่งในแต่ละบทเรียนจะกำหนดจุดประสงค์อยู่ว่าอยากได้สอนอะไรให้กับผู้เรียนบ้าง ซึ่งการจัดการเรียนรู้ จะมีสื่อประกอบการเรียนการสอน เพื่อนักเรียนเกิดการศึกษา ขึ้นกับคุณครูว่าจะนำซีเอไอไหน มาสอนเด็กให้เด็กกำเนิดวิชาความรู้

โดย ตำราเรียนภาษาพาที ที่เป็นหัวข้อนั้น เป็นสื่อประเภทหนึ่งที่ให้ครูใช้ประกอบกิจการสอน เพื่อเด็กนำภาษาไปใช้แสดงอารมณ์ พิจารณา หรือเห็นค่าของความสุขในชีวิตผ่านวรรณกรรมเท่านั้น ผู้เขียนจึงระบุนักแสดงสมมติขึ้น โดยมีตัวละครที่มาจากครอบครัวมั่งมี แต่ว่าหาความสุขไม่เจอ และมีตัวละครที่เป็นเด็กกำพร้า แม้กระนั้นสามารถแฮปปี้สำหรับเพื่อการดำเนินชีวิตด้วยการแบ่งปันกัน

ซึ่งในเรื่องเกี่ยวกับการกินนั้น เรื่องราวมิได้สื่อเรื่องโภชนาการ แต่ว่าปรารถนาสื่อว่าความยากจนข้นแค้น ไม่ว่าจะรับประทานอะไร อยู่ตรงไหน ก็สามารถสุขสบายได้ เมื่อคนที่อยู่ในครอบครัวมั่งมีมาเห็น จึงเข้าใจว่าความสุขในชีวิตมิได้อยู่ที่สถานที่กำเนิด หรือขึ้นกับที่อยู่ แต่ว่าอยู่ที่ความรู้ความเข้าใจรวมทั้งเอื้ออาทรต่อกัน

"บทเรียนดังที่กล่าวมาแล้ว ถูกแต่งขึ้นมาเพื่อตอบปัญหาความเข้าใจเรื่องความสบายของชีวิต แน่ๆว่าที่ทำการคณะกรรมการการเล่าเรียนพื้นฐาน (สพฐ.) ไม่ทิ้งหลักโภชนาการ โดยได้กำหนดการเรียนการสอนประเด็นนี้ไว้ภายในหมวดวิชาสุขศึกษา อีกทั้ง สพฐ.ได้ให้ความเอาใจใส่กับโภชนาการของเด็กอย่างยิ่ง เห็นได้จากการมีระบบระเบียบ Thai School Lunch ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยทำให้โรงเรียนสามารถจัดอาหารมื้อกลางวันที่มีคุณภาพให้แก่นักเรียน

ด้วยเหตุนี้ บทเรียนดังที่ได้กล่าวมาแล้ว เป็นการเปรียบเทียบให้เด็กกำเนิดแนวทางการคิด แล้วก็ได้เห็นว่าความสบายที่แท้จริงอยู่ตรงไหน ทั้งนี้ ไม่อยากพาดพิงใครกันแน่ แต่ว่ารู้สึกว่าการเมืองขณะนี้ อยู่ระหว่างแนวทางการขายความนึกคิด การขายแนวนโยบาย โดยเหตุนี้ ส่วนไหนที่มีประโยชน์ สพฐ.ในฐานะผู้ปฏิบัติ ก็พร้อมที่จะยอมรับฟังทุกความนึกคิด ส่วนไหนที่เป็นประโยชน์จะรับฟังและไปปรับใช้" นายอัมพร กล่าว

นักข่าวถามคำถามว่า คิดว่าดราม่าที่เกิดขึ้นแผ่ขยายไปไกลไหม นายอัมพร กล่าวว่า ไม่กลุ้มใจว่าจะมีดราม่า เพราะว่า สพฐ.อยู่ภาคการศึกษา ยินดีที่จะฟังทุกความเห็น เนื่องจากคิดว่าทุกความนึกคิดเป็นประโยชน์ ซึ่งตนมีความคิดว่าทุกคนมีวิจารณญาณสำหรับเพื่อการวิเคราะห์ แต่ การจัดทำหนังสือหนึ่งเล่ม สพฐ.มิได้จัดทำเพียงผู้เดียว จำเป็นที่จะต้องผ่านกรรมวิธีการ ตั้งแต่การตั้งคณะกรรมการจัดทำ และผ่านการตรวจสอบจากนักวิชาการอีกผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยจนกระทั่งเห็นตรงกันว่าหนังสือที่ออกมาเป็นที่ยอมรับแล้ว ซึ่งตนรู้ๆกันดีอยู่แล้ว เมื่อเวลาผ่านไป สถานการณ์แปรไป สพฐ.มานะจะทำหนังสือให้ดีขึ้น ล้ำสมัยมากเพิ่มขึ้น

ผู้รายงานข่าวถามคำถามว่า หนังสือภาษาพาทีมีหัวข้อดราม่าตั้งแต่ปี 2563 แล้วปีนี้เกิดดราม่าขึ้นอีก จะมีการเปลี่ยนแปลงให้นำสมัยหรือเปล่า นายอัมพร พูดว่า สพฐ.มีการปรับปรุงแก้ไขหนังสือเรียนทุกๆ10 ปี คือเรื่องธรรดาอยู่แล้ว แล้วก็ช่วงนี้ สพฐ.เปิดโอกาสให้สำนักพิมพ์เสนอขอปรับปรุงแก้ไขสื่อการสอนของตนได้ ซึ่งสื่อที่ผลิตใหม่พรีเซนเทชั่นใหม่ถ้าหากมีหลักสูตรใหม่เกิดมา หลักสูตรเก่าก็จำต้องไม่มีการใช้สอนอยู่แล้ว
ความยากจน
ขอบคุณข้อมูลจาก https://freelydays.com/13833/
Tags : แบบเรียนไข่ต้ม