10 อย่างที่เราควรคิด เมื่อชีวิตถดถอย

[PostDD]

1.This too shall pass ประเดี๋ยวมันก็จะผ่านไป

ถ้าเกิดเราเป็นพุทธศาสนิกชน เราก็คงจะคุ้นเคยกับคำกล่าวอบรมสั่งสอนที่ว่า ทุกอย่ าง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วหลังจากนั้นก็ดับไป

ไม่ว่าความจะเป็นความสุข หรือ ความทุกข์ มันก็จะไม่อยู่กับเราตลอดกาล ประเดี๋ยวมันก็จะผ่านไป แค่เพียงเข้าใจถึงธรรมดาข้อนี้


2.Somethings are going right มันก็มีบางเรื่องที่ดีบ้างหละ


ในขณะที่เราจมอยู่กับความทุกข์ทรมาน พวกเราก็มักจะจุดโฟกัสอยู่กับปัญหา จนลืมมองถึงสิ่งดีๆล้นหลามที่เกิดขึ้นในทุกๆวัน

ให้ลองใช้วิธีการ gratitude journey ดูนะคะ ลองเขียนขอบคุณมาก​หรือเขียนสิ่งที่ดีในทุกวันดูแล้วเราจะพบว่า

อันที่จริงแล้ว ในชีวิตเราก็มีเรื่องมีราวดีๆเกิดขึ้นตั้งมากมาย กล้วยๆเลยเป็น เราตื่นนอนขึ้นมาอีกหนึ่งวันด้วยสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์

พร้อมที่จะต่อสู้กับปัญหา และสร้างคุณประโยชน์ให้กับโลกใบนี้ได้อีกตั้งหนึ่งวัน ฯลฯ

3.I have some control มีเรื่องที่ฉันสามารถควบคุมได้

เมื่อเกิดปัญหาสังกัดพวกเรา มันก็จะดูราวกับว่าพวกเราจัดการอะไรกับมันมิได้สักอย่ าง แต่ว่าในความเป็นจริงแล้วสิ่งที่เราจัดแจงได้ ก็คือตัวเรา


ความนึกคิดพวกเรา วิธีการเลือกสนองตอบของเรา ควรมีสติสัมปชัญญะ และก็ใช้สติปัญญาสำหรับเพื่อการแก้ปัญหา


ที่สำคัญจดจำไว้ว่า ความสุขหรือความทุกข์ทรมาน เกิดที่หัวใจของพวกเราเอง ไม่ใช่คนอื่นเลย

4.I can ask for helpฉันวิงวอนได้

ไม่แปลกเลยหากพวกเราจะขอความช่วยเหลือเมื่อพวกเราปรารถนามัน เมื่อก่อนอื่นพวกเราควรจะพย าย ามจัดการกับปัญหาด้วยตัวเราเองซะก่อน แม้กระนั้น

เมื่อมันเหนือบ่ากว่าแรง การขอให้ช่วยจากผู้อื่นก็ไม่ใช่เรื่องผิด

โดยเฉพาะคนในครอบครัวของเรา ผู้ที่รักพวกเรา พวกเขาพร้อมจะช่วยเหลือเราเสมอ คุณมิได้อยู่ตามลำพังคนเดียวบนโลกใบนี้นะคะ

5.Much of this won't matter in a few years หลายเรื่องที่เกิดขึ้น ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้ามันก็จะไม่มีความสำคัญอะไรอีกต่อไป

คิดถึงตอนพวกเราเป็นเด็กสิคะ ปัญหาอันยิ่งใหญ่ของพวกเราก็คือ การลืมสมุดการบ้าน

เรารู้สึกเครียดเสมือนโลกจะถล่มทลายมากมายๆแต่พอเพียงเราโตขึ้น พวกเรามองดูย้อนกลับไป

เราก็หัวเราะให้เรื่องนั้นๆได้ ปัญหาทุกปัญหาผ่านมาเพื่อทำให้เรา อดทน รวมทั้งเติบโตขึ้น

เมื่อคุณผ่านมันไปได้ ประเด็นนี้ก็จะเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เปรียบได้ดั่งเรื่องสมุดการบ้านในวัยเด็กของคุณเพียงเท่านั้น

6.I can handle this ฉันจัดแจงมันได้

ไม่มีผู้ใดจะมั่นอกมั่นใจในตัวเรา ถ้าหากเรายังไม่มั่นใจในตัวเราเองก่อน ไม่มีผู้ใดจะช่วยพวกเราได้ตลอด ถ้าเราไม่ช่วยเหลือตนเอง ไม่ว่าจะกำเนิดปัญหา

อะไรขึ้นในชีวิต ต้องมีสติสัมปชัญญะ แล้วให้กำลังใจกับตัวเองว่า ฉันจะจัดการมันได้


ถึงแม้ในขณะนั้นพวกเราจะรู้สึกไม่ดีเพียงแค่ไหน ก็ควรจดจำไว้ว่า พวกเราจะผ่านมันไปได้


7.Something good will come out of this เรื่องดีๆจะมีเหตุที่เกิดจากเหตุนี้

เหรียญยังมีสองด้าน เหมือนๆกับทุกเรื่องราวในชีวิตของพวกเราที่มีนานัปการดูให้เลือกดูในวันที่เราประสบพบเจอกับปัญหา

ดังเช่นว่า ผู้ที่เรารักและก็ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่ างให้ กลับมาทิ้งเราไป โน่นบางทีอาจเป็นบทเรียนและก็บททดสอบที่สำคัญ

ที่ทำให้พวกเรากลับมารู้จักรักตัวเอง แล้วก็เห็นคุณค่าของตนเองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เริ่มทำอะไรดีๆให้ชีวิต แทนที่จะเสียเวล่ำเวลาไปกับความทุกข์ใจ

เหมือนที่ผ่านมา และผลที่ได้ก็คือ ชีวิตพวกเราดียิ่งขึ้น พัฒนาไปจากที่พวกเราได้มุ่งมาดไว้ ด้วยความสามารถของเราเอง เป็นต้น ต้องมองหาจุดเด่นให้พบ

8.I can accept what's out of my control ฉันสามารถเห็นด้วยในสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของฉันได้

ในชีวิตจริงมีต้นเหตุจำนวนมากที่เราไม่อาจควบคุมได้ ยิ่งพวกเราอย ากควบคุมมันเท่าไร อย ากไปบังคับมันเท่าไร เรายิ่งมีความทุกข์

วิธีการทำใจเห็นด้วยข้อเท็จจริงข้อนี้ให้ได้ และก็ปล่อยวาง เอากำลังกาย กำลังใจที่มีไปทุ่มเทให้กับสิ่งที่เราควบคุมได้ โน่นคือ ตัวเราเองดีกว่า

9.I have overcome past difficulties ฉันเคยผ่านเรื่องย ากๆมาแล้วในชีวิต

บางครั้งบางคราวการย้อนไปมองดูการบรรลุผลก่อนหน้าที่ผ่านมาก็ช่วยเราได้ ความตั้งใจ ความพย าย าม

หรือเรื่องราวย ากลำบากก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาแล้วในอดีตกาล เรายังเคยผ่านมันมาได้

และนี่ก็เป็นเพียงแค่อีกหนึ่งบททดสอบที่พวกเราก็จะผ่านมันไปได้เช่นเดียวกัน

10.I need to take care of myself ฉันจำเป็นจะต้องดูแลตัวเอง

ไม่มีผู้ใดจะรักเราได้มากพอๆกับเรารักตัวเองค่ะ โดยเหตุนี้ จงดูแลสุขภาพด้านร่างกาย สุขภาพใจของเราให้ดี

ในชีวิตนี้มีเรื่องมีราวราวอีกเยอะมากที่คอยเราอยู่ อย่ าหยุดตนเอง แค่เพียงปัญหาชั่วคราวในวันนี้ สู้ต่อไปนะคะ
ชีวิตตกต่ำ
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13250/
คำค้นหา : ข้อคิด