ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN

ในฐานะคนรักรถ การรักษารถให้ดูใหม่อยู่เสมอนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แต่การเข้าคาร์แคร์บ่อยๆ ก็อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด ทางออกก็คือการมีผลิตภัณฑ์ดูแลรถยนต์ติดไว้เอง วันนี้เราขอแนะนำ 5 ผลิตภัณฑ์ดูแลรถยนต์สุดคุ้ม ที่จะช่วยให้รถของคุณดูใหม่ เงางาม ปกป้องคราบสกปรก ใช้งานง่าย สะดวก และประหยัด



1. น้ำยาลบรอยขีดข่วนรถยนต์

รอยขีดข่วนบนรถยนต์สร้างความหงุดหงิดใจให้กับคนรักรถอย่างมาก น้ำยาลบรอยขีดข่วนรถยนต์ ช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างง่ายดาย เพียงทาครีมลงบนรอยขีดข่วน แล้วเช็ดเบาๆ รอยขีดข่วนจะดูจางลงอย่างเห็นได้ชัด ช่วยให้รถของคุณกลับมาดูใหม่เหมือนเดิม

2. น้ำยาเคลือบสีรถ / Wax เคลือบสีรถ

ปกป้องสีรถของคุณจากคราบสกปรก รอยน้ำ และแสงแดดด้วยน้ำยาเคลือบสีรถ ช่วยให้สีรถเงางาม ดูใหม่อยู่เสมอ ใช้งานง่าย ราคาประหยัด เพียงแค่ทาครีมลงบนสีรถ เช็ดเบาๆ แล้วปล่อยให้แห้ง รถของคุณก็จะดูใหม่ราวกับป้ายไฟ

3. น้ำยาเคลือบกระจก

เพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ โดยเฉพาะในช่วงฝนตก ด้วยน้ำยาเคลือบกระจก ช่วยให้กระจกใส ป้องกันคราบน้ำฝน ฝุ่นละออง และแมลง ใช้งานง่าย เพียงแค่ฉีดสเปรย์บนกระจก แล้วใช้ผ้าเช็ดเบาๆ

4. น้ำยาขจัดคราบยางมะตอย

คราบยางมะตอยเป็นปัญหาใหญ่สำหรับรถยนต์ น้ำยาขจัดคราบยางมะตอยช่วยขจัดคราบเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ทำลายสีรถ ใช้งานง่าย มีทั้งแบบน้ำยาและแบบสเปรย์

5. น้ำยาเคลือบยาง

ปกป้องยางรถของคุณจากรอยแตก รอยซีดจาง และคราบสกปรก ด้วยน้ำยาเคลือบยาง ช่วยให้ยางรถดูดำเงางาม เหมือนใหม่ ยืดอายุการใช้งาน ใช้งานง่าย เพียงแค่ทาครีมลงบนยาง แล้วเช็ดให้ทั่ว

CREATIVE MEDICAL PC-60F เป็นอีกหนึ่งเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วที่อยากให้มีติดบ้านไว้ใช้งานได้วัดค่าเบื้องต้น โดยที่คุณสามารถใช้งานตรงตามคุณสมบัติได้ดี แถมยังมีราคาที่เหมาะสมด้วย แต่กระนั้นบางคนอาจจะอยากได้รายละเอียดข้อมูลที่มากกว่านี้ เราไม่รอช้าที่จะมาแนะนำอย่างละเอียด รับรองว่าไม่ทำให้การใช้งานผิดหวังแน่นอน



เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว CREATIVE MEDICAL PC-60F

ในส่วนของที่วัดออกซิเจนปลายนิ้วยี่ห้อ CREATIVE MEDICAL PC-60F นี้นั้น เป็นอุปกรณ์ที่มีไว้เพื่อให้วัดค่าออกซิเจน ค่าเลือดที่มีความแม่นยำมาก ๆ โดยที่จะมี 4 ค่าพร้อมกัน อ่านผลผ่านทางหน้าจอ OLED ที่เหมาะกับผู้ต้องการใช้เพื่อติดตามสุขภาพโดยทั่วไป หรือผู้ที่สงสัยว่าอาจจะติดเชื้อ หรือป่วยแต่ยังไม่แสดงอาการได้ดี ทำให้เราได้รู้ถึงค่าออกซิเจนเบื้องต้นถึงข้อบกพร่องออกซิเจนที่มีอยู่ เพื่อประเมินอาการพร้อมรีบเข้ารับการรักษาอย่างรวดเร็ว

- เครื่องวัดนี้มีไว้เพื่อประเมินสุขภาพเบื้องต้นถึงข้อบกพร่องทางภาวะออกซิเจน
- จอแสดงผลรูปแบบ OLED ที่วัดค่าความอิ่มของออกซิเจนในเลือดได้ วัดการไหลเวียนของเลือด อัตราการเต้นของหัวใจ กราฟสัญญาณชีพ และแท่งกราฟการเต้นของหัวใจ
- สามารถกันน้ำได้ดี  มีวัสดุที่มีความคงทน เหนียวแน่น ไม่เปราะหักได้ง่าย ๆ
- มีเสียงหรือไฟที่แจ้งเตือนให้รู้ถึงค่าออกซิเจน และอัตราการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติเกิดขึ้น
- มีสัญญาณเตือนที่แสดงสัญลักษณ์และเสียงแจ้งเตือนเมื่อมีแบตเตอรี่อ่อน
- เครื่องมีระบบเปิด ระบบปิดแบบอัตโนมัติ
- ขนาดมีความกะทัดรัด พกพาได้ง่ายสุด โดยที่จะใช้ถ่านแบบ AAA จำนวน 2 ก้อน
- เครื่องนี้มีใบอนุญาตโฆษณาเครื่องมือแพทย์ด้วย เลขที่ ฆพ.1386/2564

วิธีการใช้งาน และข้อควรระวังในการใช้งาน

สำหรับการใช้งานเครื่องวัดออกซิเจนยี่ห้อ CREATIVE MEDICAL PC-60F ให้วางนิ้วมือ 1 นิ้วเข้าไปที่รูยางของเครื่องวัดออกซิเจน โดยวางให้พอดีนิ้ว และให้ผิวเล็บอยู่ด้านบน ปล่อยที่หนีบได้ จากนั้นก็กดปุ่มทำงานเครื่องได้ โดยที่จะเหมาะกับผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจล้มเหลว หรือผู้ที่ติดตามสุขภาพทั่วไปก็ใช้ได้เช่นกัน ซึ่งต้องรู้ถึงข้อควรระวังด้วย อย่างการตรวจสอบสภาพเครื่องให้พร้อมทุกครั้ง ห้ามทำความสะอาดด้วยกรด ด่างเด็ดขาด อย่าเอาไปวางที่ที่มีเปลวไฟ หรือความร้อน จัดเก็บให้พ้นมือเด็ก สัตว์เลี้ยง ห้ามใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่นที่ไม่ได้มาตรฐาน ระวังการกระทบกระแทกอย่างรุนแรง เพราะอาจจะทำให้เครื่องชำรุดเสียหายได้ โดยที่เครื่องนี้มีราคาที่ 1,590 บาท แต่หากซื้อผ่านออนไลน์ลดเหลือ 890 บาท ซึ่งถือว่าถูกมาก ๆ แล้ว

และนี่ก็เป็นเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว CREATIVE MEDICAL PC-60F ที่เต็มไปด้วยคุณสมบัติที่น่าสนใจ วัดได้ทั้งความเข้มข้น ค่าชีพจร ค่าการไหลเวียนของเลือด หรือกราฟแสดงสัญญาณชีพด้วย ครบจบในเครื่องเดียว ที่ยังมีราคาถูกสุด ๆ เมื่อซื้อผ่านออนไลน์ไปอีก

สำหรับปรอทวัดไข้ปัจจุบันมีหลากหลาย หนึ่งในนั้นคือระบบดิจิทัลที่มีให้เลือก อย่าง 3CMEDICAL DTK-11B ที่การันตีมีติดบ้านไว้ดีที่สุด ด้วยคุณสมบัติ การใช้งาน รวมถึงราคาที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน กระนั้นบางคนอาจจะเกิดความลังเลอยากศึกษาคุณสมบัติ ราคาว่าเป็นอย่างไรบ้าง เราไปติดตามรายละเอียดพร้อม ๆ กันได้เลย



คุณสมบัติปรอทวัดไข้ระบบดิจิทัล 3CMEDICAL DTK-11B

3CMEDICAL DTK-11B เป็นปรอทวัดไข้ดิจิตอลที่ช่วยวัดอุณหภูมิร่างกายด้วยตัวเองแบบเบื้องต้น โดยจะเป็นเครื่องปรอทเทอร์โมมิเตอร์วัดไข้สามารถประมวลผล โดยที่จะมีความรวดเร็ว ใช้งานง่ายมากแค่เข้าเครื่องมาใช้งานกับปาก หรือรักแร้ก็เพียงพอแล้ว รอจนกว่าเครื่องจะดังเตือนและหน้าจอ LED ก็จะแสดงผลรูปแบบตัวเลข ทำให้ง่ายต่อการอ่านข้อมูล สามารถพกพาระหว่างการเดินทางได้เลย ประหยัดแบตเตอรี่ได้ดี ด้วยระบบปิดเครื่องอัตโนมัติ

- ช่วงอุณหภูมิที่วัดอยู่ 32.0 – 43.0 องศาเซลเซียส สามารถคลาดเคลื่อนได้ +/- 0.1 องศาเซลเซียส
- เหมาะกับการใช้งานวัดได้ทั้งทางปาก รักษาที่มีความสะดวกสบายให้ผู้ใช้งานสุด
- มีหน้าจอที่แสดงผลแบบ LED ขนาด 20 x 7.5 มม.
- มีระบบบันทึกข้อมูลที่มีการวัดครั้งสุดท้าย เพื่อให้อ่านค่าด้านหน้าได้ง่ายมากขึ้น
- มีระบบเครื่องปิดอัตโนมัติ ไม่เปลืองแบตเตอรี่
- สามารถวัดค่าทศนิยมได้ 1 ตำแหน่ง ส่งเสียงเตือนเมื่อมีการวัดเสร็จเรียบร้อยให้เราได้รู้

วิธีการใช้งาน คำแนะนำ และข้อควรระวัง 3CMEDICAL DTK-11B

ในการใช้งาน 3CMEDICAL DTK-11B เป็นเครื่องวัดอุณหภูมิรูปแบบปรอทดิจิทัล ที่มีการใช้งานง่ายมาก ใช้เพื่อวัดอุณหภูมิร่างกาย เริ่มต้นใช้งานเพียงกดปุ่มเปิด/ปิดได้ ใส่เครื่องวัดในตำแหน่งที่ต้องการทั้งปาก หรือรักแร้ รอประมาณ 19 วินาทีจนกว่าจะมีเสียงปี๊บดังออกมา แล้วก็ค่อยดึงออก อ่านค่าที่หน้าจอ LCD ได้เลย แสดงผลไว้อย่างดี

แนะนำว่าก่อนใช้งานให้อ่านคำเตือนในฉลากและเอกสารกำกับเครื่องมือการแพทย์ด้วยเสมอ และในการวัดอุณหภูมิไม่ควรวัดในช่วง 30 นาที หลังจากกินอาหาร อาบน้ำ หรือออกกำลังกาย ส่วนข้อควรระวังในการใช้งาน สภาพแวดล้อมโดยรอบมีผลต่อการตรวจวัดอุณหภูมิ ห้ามมีการดัดแปลง แก้ไข หรือใช้งานแบบผิดประเภท หลีกเลี่ยงการวางที่ที่มีสภาพอากาศรุนแรง อย่างความชื้นสูง กลางแดดจัด หรืออุณหภูมิต่ำ เพื่อป้องกันเครื่องไม่ให้ชำรุดเสียหายได้ง่าย ๆ

ปฏิเสธไม่ได้เลยจริง ๆ ว่าปรอทวัดไข้ระบบดิจิทัล 3CMEDICAL DTK-11B มีความน่าสนใจอย่างมาก ด้วยความโดดเด่นของคุณสมบัติที่มีให้เราใช้งานเพิ่มความสะดวกสบายอย่างหลากหลาย ทั้งยังมีการใช้งานที่ตอบสนองสุด ๆ รวมถึงมีข้อควรระวังให้คุณได้ศึกษาอย่างละเอียดป้องกันเครื่องชำรุดเสียหาย ยืดอายุยืนยาว ไม่จำเป็นต้องหาซื้อใหม่ ซึ่งเครื่องนี้มีราคาอยู่ที่ 179 บาทเท่านั้น จากปกติ 239 บาท ซึ่งถือว่าถูกมากเลยจริง ๆ

สำหรับเตียงผู้ป่วยระบบไฟฟ้าปัจจุบันมีหลากหลายยี่ห้อให้คุณได้เลือกสรรอย่างมาก แต่หากใครที่ยังไม่มั่นใจในการใช้บริการ ไม่รู้จะเลือกยี่ห้อไหนดี เราไม่รอช้าที่จะมาแนะนำให้ได้เข้าใจเกี่ยวกับ 4 เตียงผู้ป่วยไฟฟ้า ราคาเข้าถึงง่าย ตอบโจทย์สไตล์สุด ว่าแต่จะมีรายละเอียดแต่ละยี่ห้ออย่างไรบ้างไปติดตามพร้อม ๆ กันได้เลย



4 เตียงผู้ป่วยระบบไฟฟ้า คุณภาพคุ้มค่าราคาที่จ่าย

1. เตียง MIKI THAILAND

เป็นเตียงที่มีโครงสร้างทำจากเหล็กคุณภาพสูง เคลือบสี มีความแข็งแรง รองรับน้ำหนักได้มากถึง 250 กก. เป็นแบบกระจายน้ำหนัก ที่ปรับตะแคงซ้าย หรือขวาได้หมด ปรับระดับเข่า ปรับท่านั่งได้ หรือจะฟังก์ชันการขับถ่ายก็มีด้วยเช่นกัน ล้อของเตียงหมุนได้แบบ 360 องศา มีระบบล็อคล้อที่จะล็อคเฉพาะล้อได้ หรือปลดล็อคก็ได้อย่างรวดเร็ว เป็นอีกความสะดวกสบาย ปลอดภัยขั้นสุด ราคาอยู่ที่ 24,900 บาท จากราคาปกติ 39,900 บาท

2. REALMED A-038 SUPER LOW 3 ไกร์

ต่อมาเป็นเตียงผู้ป่วยไฟฟ้ายี่ห้อ REALMED A-038 SUPER LOW 3 ไกร์ โครงสร้างทำจากโลหะที่มีคุณภาพสูงมาก ใช้ระบบ Powder Coating เคลือบสี รองรับน้ำหนักตัวได้สูงสุด 250 กก. เป็นแบบกระจายน้ำหนัก ที่ความสูงต่ำปรับระดับได้ 35 – 75 ซม. เตียงเอียงได้ 4 รูปแบบ ควบคุมการทำงานผ่านรีโมต ล้อทั้ง 4 มีระบบล็อค และปลดล็อคด้วยเท้า ทำให้เกิดความสะดวกสบาย ปลอดภัย โดยราคาอยู่ที่ 29,000 บาท จากราคา 35,400 บาท

3. ALLWELL KS888 3 ไกร์

อีกยี่ห้อที่น่าสนใจก็ต้อง ALLWELL KS888 3 ไกร์ ที่สามารถรองรับน้ำหนักได้สูงสุด 220 กก. แบบกระจายน้ำหนัก โดยที่สามารถปรับความสูง – ต่ำได้ ตั้งแต่ 28 – 67 ซม. ทำให้เตียงขยับขึ้นลงได้สะดวกมากขึ้น ปรับเอนหลังได้ 0 – 70 องศา ปรับระดับเข่าได้ 0 – 45 องศา โดยมีราคาอยู่ที่ 65,990 บาท จากราคาปกติที่ 99,000 บาท ถือว่าลดเยอะมาก ๆ

4. ELDERLIFE ELB-204H 3 ไกร์

เตียงคนไข้ ELDERLIFE ELB-204H 3 ไกร์ ที่มีโครงสร้างทำจากโลหะที่มีคุณภาพ มีความแข็งแรงทนทาน รองรับน้ำหนักสูงสุด 240 กก. แบบกระจายน้ำหนัก โดยที่มีความสามารถในการปรับได้สูงต่ำ 45 – 70 ซม. ปรับเอนพิงหลังได้ 0 – 75 องศา ปรับระดับวางเข่าได้ 0 – 25 องศา ซึ่งการใช้งานสามารถปรับได้ 3 รูปแบบ คือปรับพนักพิงหลัง ปรับระดับสูง - ต่ำ และปรับระดับเข่าอย่างที่บอกไป โดยใช้รีโมตไฟฟ้าในการควบคุมได้ด้วย ราคาอยู่ที่ 33,550 บาทเท่านั้น ซึ่งลดจากราคาเดิม 49,000 บาท

เตียงผู้ป่วยระบบไฟฟ้าเป็นเตียงที่ค่อนข้างตอบโจทย์ทั้งผู้ป่วย ผู้สูงอายุ รวมถึงผู้ดูแลเลยก็ว่าได้ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีฟังก์ชันการทำงานที่แตกต่างกันออกไป แต่ทุก ๆ ยี่ห้อมุ่งเน้นถึงการดูแลที่สะดวกสบายมากขึ้น ทำให้การใช้ชีวิตบนเตียงไม่เป็นเรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป หวังว่าหลังจากนี้ทุก ๆ คนจะเลือกเตียงประเภทนี้ได้ตอบโจทย์ไม่มากก็น้อย

เครื่องชั่งน้ำหนักและวัดองค์ประกอบในร่างกายเป็นสิ่งที่หลายบ้านมักมีติดไว้ใช้งาน ซึ่งถือเป็นอุปกรณ์ตรวจวัดสุขภาพที่ใช้งานได้ตลอดเวลา กระนั้นบางคนอาจจะไม่รู้ว่าจะซื้อยี่ห้อไหน รุ่นไหนใช้งานดี เราไม่พลาดที่จะมาแนะนำให้ได้รู้จักกับยี่ห้อ BEURER GS340XXL สีขาว ที่การันตีคุณสมบัติ และราคาตอบโจทย์ที่สุด ว่าแล้วก็ไปติดตามรายละเอียดพร้อมกันได้



รู้จักเครื่องชั่งน้ำหนักและวัดองค์ประกอบในร่างกาย BEURER GS340XXL สีขาว

เครื่องชั่งน้ำหนักและวัดองค์ประกอบในร่างกายเป็นหนึ่งในเครื่องชั่งที่มีความสะดวกสบายอย่างมาก โดยที่มีฟังก์ชัน TARE ที่หักค่าน้ำหนักภาชนะออกได้เลย ที่นอกจากการชั่งน้ำหนักของตัวคนแล้ว ยังเหมาะกับการชั่งสิ่งของ เด็กทารก สัตว์เลี้ยง กระเป๋าเดินทางที่ใช้เพื่อให้ได้น้ำหนักของสิ่งสิ่งนั้นอย่างเสถียร ทั้งหน้าจอก็ยังมีรูปแบบดิจิทัล ที่ใช้ตัวเลขขนาด 66 มม. มีข้อมูลที่มองเห็นได้ชัดเจน หน่วยวัดได้ 3 รูปแบบ คือปอนด์ กิโลกรัม และสโตน ใช้งานง่ายมากด้วยระบบเปิด – ปิดแบบอัตโนมัติ แค่ขึ้นไปเหยียบที่แท่นก็แสดงตัวเลขน้ำหนักให้แล้ว ลงแท่นก็จะกลับมาเลข 0 ภายใน 10 วินาทีเท่านั้น รองรับสูงสุด 200 กก. เลยทีเดียว ใช้งานในบ้านได้สบาย ๆ

- หน้าจอของเครื่องชั่งจะแสดงผลน้ำหนักที่มีตัวเลขขนาดใหญ่ 66 มม. ทำให้มองเห็นข้อมูลอย่างชัดเจน
- มีฟังก์ชัน TARE ที่เหมาะกับการชั่งน้ำหนักเด็กทารก กระเป๋าเดินทาง สัตว์เลี้ยง ฯลฯ ได้หมดไม่มีปัญหา
- เลือกเปลี่ยนหน่วยได้เลย 3 แบบ คือ ปอนด์ สโตน และกิโลกรัม
- มีหน้าแท่นที่ใช้กระจกนิรภัยความหนา 8 มม. รองรับการชั่งน้ำหนักสูง 200 กก.
- ใช้งานง่ายมาก สะดวกสบายต่อการเปิดปิดอัตโนมัติ
- มีการใช้ถ่ายรูปแบบ AAA 1.5V จำนวน 3 ก้อน แบบไม่รวมในชุด

วิธีการใช้งาน คำแนะนำ และข้อควรระวังที่ควรรู้

สำหรับการใช้งานเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลนั้นจะสามารถใช้งานได้เพื่อวัตถุประสงค์ในการชั่งน้ำหนัก โดยที่ควรยืนตรงกลาง ป้องกันการไถลของเครื่องทำให้ได้น้ำหนักที่ถูกต้อง แม่นยำ โดยที่ควรตรวจสอบอุปกรณ์การใช้งานก่อนเสมอ ส่วนเรื่องของข้อควรระวังนั้นก็อย่ากระแทกน้ำหนักลงที่ตัวเครื่องมาก ห้ามมีการแก้ไข ดัดแปลง หรือใช้งานแบบผิดประเภท ควรวางเครื่องเอาไว้ในพื้นผิวที่มีความราบเรียบ ไม่ขรุขระ ทั้งต้องเก็บสินค้าให้อยู่ไกลจากความร้อน และเปลวไฟ ทุก ๆ ข้อควรระวังเพื่อให้เครื่องปลอดภัย ไม่เกิดการชำรุดเสียหายได้ง่าย โดยราคาของเครื่องชั่งน้ำหนักวัดไขมัน BEURER GS340XXL สีขาวนี้จะอยู่ที่ 2,200 บาท แต่หากสั่งซื้อผ่านออนไลน์ลด 32% เหลือ 1,490 บาทเท่านั้น

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเครื่องชั่งน้ำหนักและวัดองค์ประกอบในร่างกาย BEURER GS340XXL สีขาว มีความปังอย่างมากในการบ่งบอกถึงน้ำหนักที่นอกจากคนก็ยังใช้เพื่อบอกน้ำหนักอย่างอื่นได้ด้วย ประโยชน์คูณสองไปอีก รวมถึงราคาก็สบายกระเป๋า อย่าช้ารีบซื้อเลย

กล้องวงจรปิด (CCTV) กลายเป็นอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยประสิทธิภาพในการป้องกันและลดอัตราการเกิดอาชญากรรม ตลอดจนประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย



1. ป้องกันการโจรกรรม: กล้องวงจรปิดเป็นด่านแรกที่ทำให้โจรคิดหนักก่อนลงมือ เพราะกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพและใบหน้าของโจรไว้เป็นหลักฐาน
2. ลดอัตราการเกิดอาชญากรรม: สถานที่ที่มีกล้องวงจรปิดมักจะมีอัตราการเกิดอาชญากรรมน้อยกว่า เพราะกล้องวงจรปิดช่วยยับยั้งอาชญากรและช่วยให้เจ้าหน้าที่จับกุมคนร้ายได้ง่ายขึ้น
3. หลักฐานสำคัญ: กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นไว้เป็นหลักฐานสำคัญ โดยเฉพาะในสถานที่ที่ไม่มีพยาน
4. ตรวจสอบความปลอดภัย: กล้องวงจรปิดช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบความปลอดภัยของสถานที่และบุคคลสำคัญได้แบบเรียลไทม์ ผ่านมือถือหรือคอมพิวเตอร์
5. ดูแลสมาชิกในครอบครัว: กล้องวงจรปิดช่วยให้คุณสามารถดูแลผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หรือสัตว์เลี้ยงได้ โดยไม่ต้องอยู่ใกล้ๆ
6. ส่งเสริมการบริหารองค์กร: กล้องวงจรปิดช่วยให้ผู้บริหารสามารถตรวจสอบการทำงานของพนักงาน และควบคุมดูแลการทำงานในสถานที่ต่างๆ ได้
7. ควบคุมพฤติกรรมพนักงาน: กล้องวงจรปิดช่วยป้องกันปัญหาการลักขโมย ทุจริต หรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพนักงาน
8. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: กล้องวงจรปิดช่วยสร้างสมาธิในการทำงาน และสร้างความรู้สึกปลอดภัยให้กับพนักงาน
9. ช่วยลดหย่อนค่าประกันภัย: บริษัทประกันภัยมักจะให้ส่วนลดค่าประกันภัยสำหรับสถานที่ที่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด
10. ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่ามนุษย์: กล้องวงจรปิดสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องพัก และสามารถบันทึกภาพได้กว้างขวางกว่าสายตาของมนุษย์

กล้องวงจรปิดเป็นอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการรักษาความปลอดภัย เหมาะสำหรับทั้งบ้าน อาคาร สถานประกอบการ และอื่นๆ อีกมากมาย ติดตั้งกล้องวงจรปิดกับ Polymate ให้เราช่วยดูแลความปลอดภัยของคุณ

ทาง Polymate มีให้บริการ ออกแบบพร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิด และยินดีให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการติดตั้งกล้องวงจรปิดได้ฟรี จากผู้เชี่ยวชาญของเรา

คุณแม่มือใหม่ในยุคปัจจุบันคงหมดปัญหาในเรื่องของการให้นมลูกนอกบ้าน เพราะมีนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาช่วยให้เกิดความสะดวกสบายมากขึ้น หนึ่งในนวัตกรรมที่พูดถึงนั้นก็คือ ผ้าคลุมให้นมลูก หรือเสื้อคลุมให้นมลูก ที่มีให้เลือกมากมายหลากหลายรูปแบบ ถ้าใครไม่รู้จะเลือกแบบไหน เรามีข้อแนะนำในการเลือกมาฝาก



ผ้าคลุมให้นม (Nursing Cover) หรือเสื้อคลุมให้นมมีประโยชน์อย่างไร

ประโยชน์หลัก ๆ ของผ้าคลุมให้นม คือ ช่วยบังการให้นมลูกของคุณแม่ตามที่สาธารณะ โดยที่ลูกน้อยมีความปลอดภัย ผ้าส่วนใหญ่จะมีน้ำหนักเบา และระบายอากาศได้ดี ซึ่งในปัจจุบันผู้ผลิตได้พัฒนารูปแบบของเนื้อผ้าให้สามารถใช้เป็นผ้าห่มได้ในช่วงที่มีอากาศหนาว เรียกได้ว่าซื้อมาแล้วสามารถใช้ได้สารพัดประโยชน์นั่นเอง

5 ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อผ้าคลุมให้นม

1. เลือกตามลักษณะการใช้งาน ข้อนี้สำคัญมาก ผ้าคลุมให้นมลูกที่วางขายแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ คือ

- แบบผ้ากันเปื้อน ผ้าคลุมลักษณะนี้มีข้อดี คือ คุณแม่สามารถมองเห็นลูกได้ง่ายขึ้น เพราะมีสายคล้องคอ คุณแม่สามารถมองเห็นลูกขณะให้นมผ่านช่องว่างของสายคล้องคอโดยไม่ต้องเปิดผ้าคลุม
- แบบเต็มตัว เหมาะกับคุณแม่ขี้อายที่ไม่ค่อยมั่นใจในตนเองนัก ผ้าคลุมแบบนี้จะมีลักษณะเหมือนเสื้อปกติ โดยจะมีรูสำหรับสวมศีรษะอยู่ตรงกลาง
- แบบผืนเดียว เหมาะกับคุณแม่สายแฟชั่นที่ชอบใช้งานแบบอเนกประสงค์ นำไปใช้ได้ในหลาย ๆ สถานการณ์ ด้วยลักษณะที่เป็นผ้าผืนเดียว คุณแม่สามารถปรับเป็นผ้าคลุมไหล่ หรือเปลี่ยนเป็นผ้าพันคอสุดชิค และกลับมาเป็นผ้าคลุมให้นมลูกก็ยังได้

2. วิธีเลือกเสื้อคลุมให้นมลูกแต่ละประเภท

-  แบบผ้ากันเปื้อน เน้นที่สายคล้องคอต้องปรับระดับได้ ควรเลือกแบบที่มีเชือก หรือสายผูกด้านหลังเพื่อกันไม่ให้เกิดช่องว่างจากทางด้านข้างเวลาให้นมลูก
- แบบเต็มตัว ควรเลือกผ้าที่มีความพลิ้วไหว เพื่อให้ลูกไม่รู้สึกอึดอัดเวลาให้นม เลือกผ้าที่มีน้ำหนักเบา พกพาสะดวก เน้นที่มีคอกว้าง เพื่อทำคุณแม่สามารถมองเห็นลูกน้อยขณะที่ให้นมได้
- แบบผืนเดียว ควรเลือกผ้าที่มีความกว้างและความยาวพอดี มีความหนาเพื่อใช้เป็นผ้าห่มได้อีกด้วย

3. เลือกเนื้อผ้าที่เป็นผ้าฝ้าย เพราะผ้าฝ้ายมีคุณสมบัติที่ดีในเรื่องของการระบายความร้อน ดูดซับเหงื่อได้ดี อีกทั้งยังอ่อนโยนต่อผิวอีกด้วย

4. เลือกความหนาให้เหมาะสมตามฤดูกาล ถ้าใช้งานช่วงฤดูร้อน ควรเลือกผ้าที่มีเนื้อบางเบา เพื่อช่วยระบายอากาศ ถ้าเป็นช่วงที่มีอากาศเย็น ควรเลือกผ้าที่มีความหนามากขึ้น

5. เลือกสีสันและลวดลายตามความชอบของคุณแม่ เพื่อความมั่นใจในยามที่ออกไปนอกบ้าน

คราวนี้คุณแม่ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการให้นมลูก เพราะมีผ้าคลุมให้นมลูก และเสื้อคลุมให้นมลูก ตัวช่วยอำนวยความสะดวก ไร้กังวลเวลาต้องออกนอกบ้านอีกต่อไปแล้ว

ถึงแม้ว่าจะเป็นคุณแม่แล้วก็สวยปังได้ เพราะเสื้อคลุมท้องถือเป็นไอเทมสำคัญที่ช่วยเพิ่มความสวยงามและให้ความสะดวกสบายในระหว่างการตั้งครรภ์ได้ ซึ่งการเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสมก็จะยิ่งช่วยทำให้คุณแม่รู้สึกมั่นใจในการแต่งตัวของตนเองมากขึ้น แน่นอนว่าการตั้งครรภ์นั้นจะทำให้หุ่นของคุณแม่เปลี่ยนไป บางคนจะไม่มั่นใจในตนเอง ดังนั้นการเลือกเสื้อคนท้องให้ถูกใจและคุ้มค่าจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ควรต้องใส่ใจ



5 วิธีการเลือกเสื้อคลุมท้องสุดปังฉบับมือใหม่

1. เลือกจากความสบาย

ความสบายของเสื้อคนท้องเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด เป็นสิ่งที่เราต้องคำนึงถึงมาเป็นอันดับแรก เราควรเลือกเนื้อผ้าที่อ่อนโยนต่อผิวและมีความยืดหยุ่นสูง เพื่อให้เรารู้สึกสบายตัวตลอดเวลา อีกทั้งต้องสามารถยืดขยายได้ดีด้วย เพราะรูปร่างของคนท้องจะขยายใหญ่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

2. เลือกตามสไตล์ที่ชอบ

เสื้อคลุมท้องมีรูปแบบและดีไซน์ที่หลากหลาย เราควรเลือกสไตล์ที่เหมาะสมกับรูปร่างและสไตล์การแต่งตัวของเรา มีความยาวที่พอดี มีลวดลายต่าง ๆ หรือเสื้อคลุมท้องสวยๆที่มีรูปแบบพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเดรสหรือชุดลำลองทั่วไป การเลือกสไตล์เสื้อผ้าที่เราชอบนั้นจะทำให้เรายิ่งรู้สึกมั่นใจในการแต่งตัวมากขึ้น

3. มีความคุ้มค่า

ชุดคลุมท้องนั้นมีราคาที่แตกต่างกันออกไป อาจจะไม่จำเป็นต้องซื้อสินค้าที่มีราคาแพงมาก เพื่อให้ได้เสื้อคนท้องที่มีคุณภาพดี ให้พิจารณาเลือกสินค้าที่มีคุณภาพดีและราคาเหมาะสมเป็นหลัก เราอาจจะต้องลองสวมใส่ก่อนที่จะซื้อ เพื่อให้แน่ใจว่ามีความพอใจและชุดนั้นมีความพอดีกับรูปร่างของเรา อีกทั้งอย่าลืมดูรีวิวจากผู้ใช้งานจริงและความคิดเห็นเกี่ยวกับสินค้า เพื่อให้แน่ใจว่าจะได้รับสินค้าที่คุ้มค่าและมีคุณภาพ

4. สามารถปรับแต่งได้หลายลุค

การเลือกเสื้อคลุมท้องที่มีความหลากหลาย สามารถช่วยเพิ่มความสนุกในการแต่งตัวของคุณแม่ในช่วงที่กำลังตั้งครรภ์ได้ นับว่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่เบื่อชุดเดรส เพราะสามารถ Mix & Match แบบเสื้อที่น่ารัก ๆ ให้เข้ากับกางเกงสีพื้นได้ อีกทั้งยังทำให้ไม่เบื่อการใส่ชุดแบบเดิม ๆ อีกด้วย

5. สีเข้มช่วยพรางหุ่น

แน่นอนว่าคงมีคุณแม่หลายคนที่ไม่มั่นใจในหุ่นของตนเอง การเลือกชุดสีพื้นสีเข้มจะสามารถช่วยพรางหุ่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณท้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้นขณะตั้งครรภ์ แต่ทั้งนี้ การเลือกสีพื้นเพื่อพรางหุ่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเลือกชุดคลุมท้องเท่านั้น เราสามารถโชว์ความสวยอย่างเป็นธรรมชาติของร่างกายได้เต็มที่

คุณแม่ที่กำลังมีน้องอยู่ในท้อง ไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไป เพราะมีเสื้อคนท้องสวยๆหรือเสื้อให้นมลูกวางขายในตลาดและช่องทางออนไลน์ให้เลือกเยอะมาก อย่างที่กล่าวไปในข้างต้น การเลือกชุดคลุมท้องที่เหมาะสมกับตัวเราเองนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ เช่น หากว่าเราซื้อชุดที่เนื้อผ้าแข็ง ไม่มีความยืดหยุ่นมาสวมใส่ นอกจากจะหนักท้องแล้วก็ยังต้องรู้สึกไม่สบายตัวด้วย แต่ถ้าหากเลือกชุดที่มีเนื้อผ้านิ่มใส่สบาย รับรองได้เลยว่าวัน ๆ นั้นจะเป็นวันที่ดีกว่าแน่นอน

หนึ่งในความยากลำบากในการตั้งครรภ์ของผู้หญิง นอกจากความยากลำบากในการปกป้องลูกน้อยตลอดระยะเวลา 9 เดือนให้เติบโตมาอย่างสมบูรณ์แข็งแรง เรื่องของสรีระร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากก็เป็นอีกเรื่องที่น่าหนักอกหนักท้องไม่แพ้กัน กางเกงคนท้องเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยดี ๆ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือปัญหานี้ให้กับบรรดาคุณแม่ทั้งหลายโดยเฉพาะ แต่จะดีอย่างไรและทำไมถึงกลายเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก วันนี้เราจะมาเล่าถึงประโยชน์ของกางเกงนี้ที่คุณแม่หลายท่านต่างก็ยกนิ้วและยอมรับให้เป็นหนึ่งในของที่ต้องมีติดตู้เสื้อผ้าเพื่อช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น



ประโยชน์ของกางเกงคนท้อง ตัวช่วยที่ออกแบบมาเพื่อช่วยคุณแม่โดยเฉพาะ

บอกลายุคสมัยของชุดคนท้องต้องมีแค่ชุดเดรสยาวหลวมโคร่งเท่านั้น  เพราะจริง ๆ แล้วถึงจะท้องแต่ก็ยังใส่กางเกงคุณแม่ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษได้ แถมยังช่วยเหลือทางสรีระได้เหนือชั้นกว่าเดิมอีกด้วย

1. ลดภาระกล้ามเนื้อหลังที่ช่วยพยุงท้อง ทำให้ลดอาการปวดหลังไปในตัว

กางเกงคนท้องถูกออกแบบมาให้สามารถช่วยยกเสริมแรงพยุงครรภ์บางส่วน จึงช่วยลดภาระของกล้ามเนื้อหลังและสะโพกที่ออกแรงดึงน้ำหนักของครรภ์ที่ทั้งใหญ่และหนักจนคุณแม่ต้องค่อยเดินท้องแอ่นตลอด  ซึ่งนอกจากจะช่วยลดเรื่องของอาการปวดหลังที่แสนทรมาน ยังช่วยลดความเสี่ยงปัญหาหมอนรองกระดูกเสื่อมที่อาจตามมาในอนาคตได้อีกด้วย

2. เคลื่อนไหวคล่องตัวขึ้น ลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุจากความรุ่มร่ามของเครื่องแต่งกาย

หนึ่งในปัญหาของชุดคลุมท้องยาวที่แก้ไม่ตก คือเรื่องของความรุ่มร่ามเกะกะ ต้องคอยระวังตอนจะเดินจะนั่งอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจำเป็นต้องเดินไปในที่ทางที่ไม่ราบเรียบหรืออยู่ในสถานการณ์เร่งรีบที่ต้องการความคล่องตัวสูง ก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุสะดุดชายกระโปรงเอาได้ง่าย ๆ  กางเกงคนท้องจึงกลายเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ช่วยเพิ่มความคล่องตัวกระฉับกระเฉง ลดปัญหาเหล่านี้ได้

3. เลกกิ้งคนท้องกระชับต้นขา ลดปัญหาขาแตกลายให้คุณแม่ได้ด้วย

การขยายตัวของผิวหนังหน้าท้อง ต้นขา จนผิวหนังขยายแตกลายก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่คุณแม่หลายท่านไม่พึงปรารถนาเอาเสียเลย แต่เลกกิ้งคนท้องที่ถูกออกแบบมาสำหรับคุณแม่โดยเฉพาะ สามารถช่วยบรรเทาปัญหานี้ได้ด้วยเพราะช่วยรัดพยุงต้นขาที่มักจะมีไขมันสะสมเยอะขึ้นในระหว่างการตั้งครรภ์

4. เพิ่มความมั่นใจให้คุณแม่ ท้องอยู่ก็สวยได้

สุดท้ายนี้กางเกงคนท้องยังช่วยเสริมความมั่นใจให้กับเพศหญิงที่ใส่ใจเรื่องความสวยงามเป็นพิเศษ ไม่ให้สูญเสียความมั่นใจตัวเองเกินไปจากหุ่นที่ดูบวมฉุ ท้องใหญ่ และไม่สามารถแต่งตัวจัดเต็มได้เหมือนเดิม  ซึ่งฮอร์โมนที่แปรปรวนระหว่างช่วงตั้งครรภ์อาจทำให้บางท่านยิ่งจิตตกกับตัวเองไปกันใหญ่จนพัฒนาเป็นปัญหาซึมเศร้าหลังคลอดที่รุนแรงได้  ดังนั้นนอกจากจะช่วยทางร่างกายแล้ว การช่วยเสริมทางจิตใจก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน

กางเกงคุณแม่ที่ไม่ได้มีดีแค่ไว้ใช้สวมใส่ รู้อย่างนี้แล้ว คงอยากเลือกหากางเกงคนท้องดี ๆ สักตัวมาให้คุณแม่ที่กำลังปฏิบัติภารกิจสำคัญได้ใส่เพื่อช่วยให้การตั้งครรภ์ราบรื่นปลอดภัยด้วยดีบ้างแล้วใช่หรือไม่  เพราะประโยชน์ของเครื่องแต่งกายที่ฟังดูเหมือนธรรมดานี้ ไม่ได้มีดีแค่ไว้ใช้สวมใส่จริง ๆ

สำหรับหลาย ๆ ชุดที่ต้องโชว์สัดส่วนหรือเน้นสัดส่วน การใช้ที่แปะจุกก็เป็นตัวช่วยดี ๆ ที่ช่วยให้รูปร่างของสาว ๆ ดูสวยขึ้นและมีความมั่นใจมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้เกิดความคล่องตัวในการทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างการว่ายน้ำ เล่นกีฬา ออกกำลังกาย หรืออื่น ๆ สำหรับสาว ๆ คนไหนที่สนใจอยากใช้แต่ไม่รู้ว่าใช้อย่างไรหรือควรเลือกอย่างไร เรามาดูกัน!



7 เรื่องที่สาว ๆ ควรรู้ก่อนเลือกที่แปะจุก แบบไหนปัง แบบไหนพัง!

1. เลือกวัสดุคุณภาพดี ไม่ระคายเคืองต่อผิว ควรเลือกใช้ซิลิโคนแปะจุกเกรดทางการแพทย์ที่มีความอ่อนโยนต่อผิวและไม่ก่อให้เกิดการแพ้หรือการระคายเคือง เพราะหากเลือกวัสดุที่คุณภาพไม่ดีอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังได้ ทำให้เกิดการแพ้ เกิดผดผื่น และทำให้รู้สึกไม่สบายตัว
2. เลือกชนิดที่ไม่มีกาวตรงกลาง เพื่อให้แกะออกง่ายและไม่เจ็บ เพราะหากเลือกชนิดที่มีกาวตรงกลางหรือใช้กาวทั้งแผ่นที่แม้จะติดได้อย่างแน่นหนาแต่ก็จะทำให้แกะออกยากและเจ็บบริเวณหัวนม อีกทั้งยังทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว
3. เลือกจากขนาดหน้าอก ควรเลือกขนาดที่พอดีกับไซซ์หน้าอกของตัวเอง เพื่อปิดได้อย่างมิดชิด ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป เพราะหากเลือกซิลิโคนที่มีขนาดเล็กจะทำให้ปิดไม่มิดและหลุดออกง่าย
4. เลือกจากรูปทรง มีให้เลือกหลายรูปทรง มีตั้งแต่ซิลิโคนขนาดเล็กแบบทรงกลมที่ปิดจุกได้พอดี แบบทรงหยดน้ำ และแบบปีกนก
5. เลือกจากประเภทการใช้งาน แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ แบบใช้ซ้ำและแบบใช้แล้วทิ้ง โดยแบบใช้ซ้ำสามารถใช้ซ้ำได้หลายครั้ง บางยี่ห้อผลิตออกมาให้ใช้ซ้ำได้มากถึง 100 ครั้งเลยทีเดียว
6. ประสิทธิภาพการกันน้ำ สำหรับสาว ๆ คนไหนที่ชอบทำกิจกรรมทางน้ำหรือทำกิจกรรมที่เหงื่อออกง่ายอย่างการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา ควรเลือกซิลิโคนแปะจุกที่มีประสิทธิภาพในการกันน้ำกันเหงื่อ เพื่อให้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างมั่นใจโดยไม่ต้องกลัวหลุด
7. เลือกจากโทนสี เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติและเข้ากับชุดต่าง ๆ ได้ง่าย แบ่งออกเป็น 3 โทนสีหลัก ๆ ได้แก่ โทนสีอ่อน โทนสีกลาง และโทนสีเข้ม

การเลือกที่แปะจุกก็เหมือนกับการเลือกเสื้อผ้าที่ควรเลือกให้เหมาะกับสีผิวของตัวเอง ขนาดพอดีตัว ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป และควรเป็นสินค้าที่มีคุณภาพดีเพื่อประสิทธิภาพการใช้งานในระยะยาว เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้สาว ๆ เกิดความมั่นใจขึ้นได้แล้ว

เครื่องชั่งน้ำหนักและวัดองค์ประกอบในร่างกายเป็นสิ่งที่หลายบ้านมักมีติดไว้ใช้งาน ซึ่งถือเป็นอุปกรณ์ตรวจวัดสุขภาพที่ใช้งานได้ตลอดเวลา กระนั้นบางคนอาจจะไม่รู้ว่าจะซื้อยี่ห้อไหน รุ่นไหนใช้งานดี เราไม่พลาดที่จะมาแนะนำให้ได้รู้จักกับยี่ห้อ BEURER GS340XXL สีขาว ที่การันตีคุณสมบัติ และราคาตอบโจทย์ที่สุด ว่าแล้วก็ไปติดตามรายละเอียดพร้อมกันได้



รู้จักเครื่องชั่งน้ำหนักและวัดองค์ประกอบในร่างกาย BEURER GS340XXL สีขาว

เครื่องชั่งน้ำหนักและวัดองค์ประกอบในร่างกายเป็นหนึ่งในเครื่องชั่งที่มีความสะดวกสบายอย่างมาก โดยที่มีฟังก์ชัน TARE ที่หักค่าน้ำหนักภาชนะออกได้เลย ที่นอกจากการชั่งน้ำหนักของตัวคนแล้ว ยังเหมาะกับการชั่งสิ่งของ เด็กทารก สัตว์เลี้ยง กระเป๋าเดินทางที่ใช้เพื่อให้ได้น้ำหนักของสิ่งสิ่งนั้นอย่างเสถียร ทั้งหน้าจอก็ยังมีรูปแบบดิจิทัล ที่ใช้ตัวเลขขนาด 66 มม. มีข้อมูลที่มองเห็นได้ชัดเจน หน่วยวัดได้ 3 รูปแบบ คือปอนด์ กิโลกรัม และสโตน ใช้งานง่ายมากด้วยระบบเปิด – ปิดแบบอัตโนมัติ แค่ขึ้นไปเหยียบที่แท่นก็แสดงตัวเลขน้ำหนักให้แล้ว ลงแท่นก็จะกลับมาเลข 0 ภายใน 10 วินาทีเท่านั้น รองรับสูงสุด 200 กก. เลยทีเดียว ใช้งานในบ้านได้สบาย ๆ

- หน้าจอของเครื่องชั่งจะแสดงผลน้ำหนักที่มีตัวเลขขนาดใหญ่ 66 มม. ทำให้มองเห็นข้อมูลอย่างชัดเจน
- มีฟังก์ชัน TARE ที่เหมาะกับการชั่งน้ำหนักเด็กทารก กระเป๋าเดินทาง สัตว์เลี้ยง ฯลฯ ได้หมดไม่มีปัญหา
- เลือกเปลี่ยนหน่วยได้เลย 3 แบบ คือ ปอนด์ สโตน และกิโลกรัม
- มีหน้าแท่นที่ใช้กระจกนิรภัยความหนา 8 มม. รองรับการชั่งน้ำหนักสูง 200 กก.
- ใช้งานง่ายมาก สะดวกสบายต่อการเปิดปิดอัตโนมัติ
- มีการใช้ถ่ายรูปแบบ AAA 1.5V จำนวน 3 ก้อน แบบไม่รวมในชุด

วิธีการใช้งาน คำแนะนำ และข้อควรระวังที่ควรรู้

สำหรับการใช้งานเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลนั้นจะสามารถใช้งานได้เพื่อวัตถุประสงค์ในการชั่งน้ำหนัก โดยที่ควรยืนตรงกลาง ป้องกันการไถลของเครื่องทำให้ได้น้ำหนักที่ถูกต้อง แม่นยำ โดยที่ควรตรวจสอบอุปกรณ์การใช้งานก่อนเสมอ ส่วนเรื่องของข้อควรระวังนั้นก็อย่ากระแทกน้ำหนักลงที่ตัวเครื่องมาก ห้ามมีการแก้ไข ดัดแปลง หรือใช้งานแบบผิดประเภท ควรวางเครื่องเอาไว้ในพื้นผิวที่มีความราบเรียบ ไม่ขรุขระ ทั้งต้องเก็บสินค้าให้อยู่ไกลจากความร้อน และเปลวไฟ ทุก ๆ ข้อควรระวังเพื่อให้เครื่องปลอดภัย ไม่เกิดการชำรุดเสียหายได้ง่าย โดยราคาของเครื่องชั่งน้ำหนักวัดไขมัน BEURER GS340XXL สีขาวนี้จะอยู่ที่ 2,200 บาท แต่หากสั่งซื้อผ่านออนไลน์ลด 32% เหลือ 1,490 บาทเท่านั้น

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเครื่องชั่งน้ำหนักและวัดองค์ประกอบในร่างกาย BEURER GS340XXL สีขาว มีความปังอย่างมากในการบ่งบอกถึงน้ำหนักที่นอกจากคนก็ยังใช้เพื่อบอกน้ำหนักอย่างอื่นได้ด้วย ประโยชน์คูณสองไปอีก รวมถึงราคาก็สบายกระเป๋า อย่าช้ารีบซื้อเลย

เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วที่ดีมีคุณภาพอย่างที่สุด ต้องไม่พลาดกับ CREATIVE MEDICAL PC-60F ที่การันตีว่าสุดเจ๋ง ทั้งคุณสมบัติ ราคา และการใช้งานที่ตอบโจทย์ ซึ่งจะเป็นอย่างไรไปติดตามรายละเอียดกันได้ เผื่อว่าใครที่อยากรู้คุณสมบัติของยี่ห้อนี้แต่ก็ยังลังเล เชื่อว่าจะตัดสินใจได้ทันที!



เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว CREATIVE MEDICAL PC-60F

สำหรับ CREATIVE MEDICAL PC-60F เป็นที่วัดออกซิเจนปลายนิ้วเพื่อสุขภาพของทุก ๆ คน โดยสามารถอ่านหน้าขอแสดงผลได้ เหมาะกับผู้ต้องการใช้เพื่อติดตามสุขภาพโดยทั่วไป และผู้ที่ติดเชื้อ ป่วยแบบไม่แสดงอาการ ก็จะใช้เพื่อวัดค่าออกซิเจนเบื้องต้น ให้รู้ถึงภาวะออกซิเจนที่มีอยู่ ประเมินอาการได้อย่างดี รีบเข้ารับการรักษาได้ทันท่วงที

- หน้าจอแสดงผล OLED เพื่อวัดค่าอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด อัตราการเต้นของหัวใจ การไหลเวียนเลือด กราฟสัญญาณชีพ และแท่งกราฟการเต้นของหัวใจ
- เครื่องสามารถใช้งานได้ 2 โหมด คือ การอ่านผลแบบครั้งเดียว กับอ่านแบบต่อเนื่อง
- ระบบเปิด / ปิด เครื่องอัตโนมัติ
- มีเสียง และไฟแจ้งเตือน เมื่อค่าออกซิเจนและอัตราการเต้นของชีพจรที่ผิดปกติ
- มีสัญลักษณ์แสดง และเสียงเตือนเมื่อเกิดแบตเตอรี่อ่อน
- ขนาดกะทัดรัด พกพาได้สะดวกสบาย ใช้งานง่ายเพียงใช้ถ่าย AAA จำนวน 2 ก้อน
- ใบอนุญาตโฆษณาเครื่องมือแพทย์ เลขที่ ฆพ.1386/2564
- มั่นใจในการใช้งาน ด้วยการรับประกัน 2 ปี ตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด
- สามารถกันน้ำได้ วัสดุมีความเหนียวแน่น แข็งแรงทนทาน ไม่เปราะหักง่าย

วิธีการใช้งาน คำแนะนำ และข้อควรระวัง CREATIVE MEDICAL PC-60F

สำหรับการใช้งานเครื่องวัดออกซิเจน CREATIVE MEDICAL PC-60F คุณสามารถวางนิ้วมือ 1 นิ้วที่รูยางของเครื่อง โดยให้ผิวเล็บอยู่ด้านบน แล้วปล่อยที่หนีบ จากนั้นกดปุ่มทำงานได้เลย ซึ่งจะเหมือนกับผู้ป่วยที่มีภาวะของหัวใจล้มเหลว ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ต้องการติดตามสุขภาพโดยทั่วไป ทั้งนี้ ควรศึกษาสินค้า  และวิธีการใช้งานอย่างละเอียดด้วย ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนที่จะซื้อใช้งานทุกครั้ง ทั้งนี้ เรื่องของข้อควรระวัง

- ควรมีการตรวจเช็กสภาพเครื่องให้พร้อมทุกครั้งก่อนใช้งาน
- ห้ามจัดเก็บพื้นที่ไว้ใกล้ความร้อน มีเปลวไฟ
- การทำความสะอาดไม่ควรใช้สารที่ออกฤทธิ์เป็นกรด และด่าง
- ควรจัดเก็บให้พ้นมือเด็ก และสัตว์เลี้ยง
- ระมัดระวังการกระทบกระแทกรุนแรง เพราะอาจจะทำให้สินค้าชำรุดเสียหายได้

สำหรับCREATIVE MEDICAL PC-60F เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วนี้มีราคาอยู่ที่เครื่องละ 1590 บาท แต่หากสั่งซื้อผ่านออนไลน์ตอนนี้ลดเหลือ 890 บาทเท่านั้น ซึ่งค่อนข้างสมเหตุสมผลมาก ด้วยคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่จะทำให้การใช้งานประสิทธิภาพมากที่สุด ใครที่ที่บ้าน หรือคนใกล้ชิดป่วยด้วยโรคที่ควรใช้เครื่องนี้แนะนำว่าซื้อรุ่นนี้ตอบโจทย์ คุ้มค่าต่อทุก ๆ คนอย่างที่สุดแน่นอน ไม่เชื่อก็ลองดู!

สำหรับใครที่กำลังมองหาเตียงผู้ป่วยแต่ยังไม่รู้จะเลือกแบบไหนดี แนะนำเป็นเตียงรูปแบบไฟฟ้า อย่าง ELDERLIFE ELB-201H 2 ไกร์ พร้อมฟูกที่นอน 4 ตอน ที่พร้อมให้คุณได้นำไปใช้อย่างดีที่สุด คุณสมบัติครบครัน แถมราคาน่าคบหา เอาเป็นว่าเราไปติดตามพร้อม ๆ กัน เพื่อการตัดสินใจที่เหมาะสมตอบโจทย์การใช้งาน



คุณสมบัติเตียงผู้ป่วยแบบไฟฟ้า ELDERLIFE ELB-201H 2 ไกร์

เตียงผู้ป่วยไฟฟ้า ELDERLIFE ELB-201H 2 ไกร์ พร้อมฟูกที่นอน 4 ตอน เป็นตัวช่วยที่จะมาทำให้การนอนหลับผู้ป่วยมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยที่มีการปรับเอนร่างกายได้ นอนหลับสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น มีฟังก์ชันที่หลากหลายเพื่อรองรับการใช้งานที่ครอบคลุม สามารถปรับระดับพนักพิงหลังได้ หรือจะปรับระดับเข่าได้ด้วยตามความต้องการเช่นกัน เพื่อท่าทางที่เหมาะสม

ด้วยการใช้วัสดุที่มีมาตรฐาน แข็งแรง มั่นคง เพื่อการใช้งานยาวนาน ปลอดภัย ใช้รีโมตควบคุมการทำงานได้ ออกแบบปุ่มกดใช้งานง่าย ชัดเจน เคลื่อนย้ายง่ายด้วย4 ล้อเลื่อน มีระบบล็อคล้อเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงระหว่างใช้ ไม่ให้ลื่นไหล ทั้งมาพร้อมฟูกที่นอน และเสาน้ำเกลือ ช่วยอำนวยความสะดวกสบายในการใช้งาน รองรับน้ำหนักมาก 240 กก. แบบกระจายน้ำหนัก

- ปรับการใช้งานได้ 2 รูปแบบที่มีการปรับพนักพิงหลัง หรือปรับระดับเข่าได้ ใช้รีโมตไฟฟ้าในการควบคุม
- โครงสร้างเตียงใช้เหล็กคุณภาพสูง แข็งแรง ทนทาน รองรับน้ำหนักได้สูงสุด 240 กก. แบบกระจายน้ำหนัก
- เคลื่อนย้ายสะดวกไปกับ 4 ล้อที่ล็อกได้ สร้างความสะดวกสบาย ปลอดภัย
- มีราวกั้นเตียงอะลูมิเนียมอัลลอย ปรับสไลด์ขึ้นลงได้ตามต้องการ ป้องกันไม่ให้ตกเตียง จะพับเก็บก็ได้ด้วยสร้างความสะดวกสบาย
- มาพร้อมฟูกที่นอน 4 ตอน กันน้ำได้ มีเสาน้ำเกลือให้ด้วย
- ปรับพนักพิงหลังได้ 0 – 75 องศา ปรับระดับเข่าได้ 0 – 45 องศา

ข้อควรระวังใช้งาน ELDERLIFE ELB-201H 2 ไกร์ พร้อมฟูกที่นอน 4 ตอน

เตียงคนไข้ ELDERLIFE ELB-201H 2 ไกร์ พร้อมฟูกที่นอน 4 ตอน มีข้อควรระวังที่ต้องรู้ คือไม่ควรวางเตียงในที่ที่อากาศไม่ถ่ายเท อับชื้นนาน ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อรา รวมถึงนำราวเตียงขึ้นจากเตียงเพื่อป้องกันผู้ป่วยตกเตียง เมื่อต้องการขนย้ายเตียง ไม่ควรใช้วิธีลากหรือผลัก ไม่ควรวางสิ่งของที่มีน้ำหนักมากเกินไปที่เตียง ห้ามกระโดด กระแทกเตียง เพื่อคงสภาพในการใช้งานให้ยาวนาน  ห้ามใช้วัสดุที่แข็งหยาบ น้ำยา ผ้าเปียก สารเคมีในการเช็ดทำความสะอาด ไม่ควรวางเตียงที่ตำแหน่งความชื้นสูง แดดแรง ใกล้ห้องน้ำ หรือใต้แอร์

การใช้งานเตียงผู้ป่วย ELDERLIFE ELB-201H 2 ไกร์ พร้อมฟูกที่นอน 4 ตอน จะใช้เพื่อนอน ควบคุมด้วยไกร์หมุน หรือรีโมตคอนโทรล แนะนำว่าให้ศึกษาข้อมูลสินค้า และการใช้งานให้ละเอียดเสมอ โดยมีราคาอยู่ที่ 35,900 บาท ผ่านซื้อออนไลน์ลดเหลือ 26,900 บาท

FASICARE FB-411 พร้อมมอเตอร์ เป็นอีกที่นอนลมที่ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะมีคุณสมบัติที่เหมาะสมโดยเฉพาะผู้ป่วยแผลกดทับ ทั้งยังลดราคาด้วยหากซื้อผ่านออนไลน์ แต่จะมีรายละเอียดเป็นอย่างไร เราไปติดตามพร้อม ๆ กันได้เลย รับรองว่าการตัดสินใจซื้อของคุณจะเหมาะสม และตอบโจทย์การใช้งาน



ที่นอนลม FASICARE FB-411 พร้อมมอเตอร์ ซื้อออนไลน์ราคาโดนใจ

สำหรับที่นอนลมกันแผลกดทับ FASICARE FB-411 พร้อมมอเตอร์ ที่ช่วยเรื่องกระจายแรงกดทับในทั่วร่างกาย ทำให้ไม่เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพร่างกาย ประสิทธิภาพสูง โดยที่มีความหนา 0.34 มม. ผลิตจาก PVC medical grade เหนียว ทนทาน ไม่มีการฉีกขาด ลดแรงเสียดสีระหว่างที่นอนและผิวได้อย่างดีที่สุด มีลอนนอนจำนวน 18 ลอน มีระบบ A/B Alternating ที่จะสลับพอง – ยุบของลอนได้ต่อเนื่องเลย มี CPR ที่หากเกิดเหตุฉุกเฉินก็จะปล่อยลมออกมารวดเร็ว พร้อมระบบช่วยระบายอากาศ หรือลดความอับชื้น อย่าง Low Air Loss Holes เพื่อการนอนที่สบายตัวมากกว่าเดิม ใช้งาน หรือจัดเก็บได้ง่ายรูปแบบเป่าลม

- สลับวงจรลมอัตโนมัติทุก ๆ 12 นาที เพื่อลดการกระจายแรงกดทับต่าง ๆ ไปทั่วร่างกายที่มีประสิทธิภาพ
- รูพ่นอากาศขนาดจิ๋ว บริเวณลอนที่นอนช่วยระบายอากาศและความอับชื้นได้ดี
- ผลิตจารกวัสดุ PVC medical grade ที่มีความหนา 0.34 มม. รับน้ำหนักสูงสุด 145 กก.
- มีระบบ CPR ที่สามารถปล่อยลมออกมาได้รวดเร็วสำหรับกรณีฉุกเฉิน
- มาพร้อมมอเตอร์ปั๊มลมที่ทำงานได้ต่อเนื่องตลอด 24 ชม. ความแรงปรับได้ 10 ระดับ
- ระบบการทำงานรูปแบบ A/B Alternating จะสลับการยุบ – พองของลอนที่มีต่อเนื่อง มีเสียงรบกวนได้ต่ำมาก หรือแทบไม่มีเลย
- ที่นอนผ่านการทดสอบความปลอดภัยแล้วจาก SGS (Biocompatibility) เพิ่มความมั่นใจในการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สินค้าที่มีภายในกล่อง FASICARE FB-411 พร้อมมอเตอร์

ภายในกล่องสินค้าFASICARE FB-411 พร้อมมอเตอร์ จะมีอุปกรณ์อยู่ภายในมากมาย เป็นเตียงลมเพื่อผู้ป่วยแผลกดทับเพื่อการใช้งานที่เหมาะสม รู้ไว้ก็จะช่วยให้การใช้งานมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม

- มีที่นอนเป็นรูปแบบ 18 ลอน จำนวน 1 ผืน
- ผ้าคลุม PU Medical grade แบบกระดุม 1 ผืน
- ปั๊มลมที่นอน 1 เครื่อง
- ฟิวส์จำนวน 2 อัน
- ใบประกัน และคู่มือของการใช้งาน
- ลอนอะไหล่ 1 ลอน

ที่นอนลมกันแผลกดทับ FASICARE FB-411 พร้อมมอเตอร์ มีวิธีการใช้งานเพื่อช่วยลดและกระจายแรงกดทับของร่างกาย โดยที่จะใช้งานที่นอนลมต้องมีการเปิดมอเตอร์อยู่เพื่อการใช้งานตลอดเวลา ควรใช้ภายใต้คำแนะนำการดูแลของแพทย์ หรือนักกายภาพบำบัด โปรดอ่านคำเตือนฉลาก และเอกสารกำกับเครื่องมือแพทย์ก่อนใช้งานอย่างละเอียดเสมอ โดยที่มีราคา 7,450 บาท และหากซื้อผ่านออนไลน์ลดเหลือ 6,230 บาทเท่านั้น ส่งตรงถึงหน้าบ้านรวดเร็วสุด

สำหรับใครที่กำลังมองหาเตียงเด็ก ที่นอนให้เหมาะสมกับเด็กแต่ก็ยังไม่รู้ถึงวิธีการเลือกซื้อว่าจะเริ่มต้นยังไง เราไม่รอช้าที่จะมาแนะนำให้ได้รู้จักกับวิธีการเลือกเหล่านี้ การันตีว่าสามารถนำไปปรับใช้ได้เลยตลอดไม่มีปิดกั้น เพื่อให้ผลลัพธ์การนอนหลับของลูกน้อยสมบูรณ์มากที่สุด ซึ่งจะเป็นอย่างไรเราไปติดตามรายละเอียดพร้อม ๆ กันได้เลย



แนวทางการเลือกเตียงเด็ก – ที่นอนให้เหมาะสมกับเด็ก

1. ต้องเลือกเตียงให้เหมาะสมกับตัวเด็ก

อย่างแรกที่ไม่อาจมองข้ามไปได้ก็คือเรื่องของเตียงที่ควรมีความสูง ความกว้าง หรือจำนวนชั้นที่เหมาะสมกับเด็ก หรือจำนวนเด็ก หากคุณต้องการให้ลูกน้อยนอนด้วยกัน แล้วประหยัดพื้นที่ก็ต้องเป็นเตียง 2 ชั้นที่สามารถนอนกันได้ 2 คนและยังมีพื้นที่เหลือ ๆ ไว้ทำกิจกรรมอื่น ๆ ภายในห้องนอนได้ แต่ก็ต้องดูความสูงของเพดานด้วยว่าสามารถวางเตียงรูปแบบนี้ได้หรือไม่

2. วัสดุที่ใช้ในการผลิต

เป็นอีกสิ่งที่ไม่อาจละเลยด้วยเช่นกันก็คือเรื่องวัสดุที่ใช้ในการผลิต ซึ่งเตียงก็จะต้องมีคุณภาพ สามารถใช้งานได้ยาวนาน มั่นคง ปลอดภัย ไม่ใช่ว่านอนแล้วมีโยกเยก หรือเหมือนอะไรจะหลุด ส่วนที่นอนก็ควรเลือกวัสดุที่ดีเช่นกัน มีความหนาแน่น นุ่มนิ่ม ทนทานต่อการใช้งาน รองรับแรงกดแรงทับได้ดี ปลอดภัยจากสารพิษ สารเคมีที่ตกค้างต่าง ๆ ไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ต่อเด็ก

3. พาลูกไปลองด้วยตัวเอง

หากเป็นไปได้ไม่ว่าจะเป็นเตียง หรือที่นอนเด็กอยากให้ผู้ปกครอง คุณพ่อคุณแม่เลือกพาลูกไปลองด้วยตัวเองเลย เพื่อให้ได้รู้ถึงประสิทธิภาพในการนอนหลับ ว่าจะแข็งเกินไป หรือนุ่มเหินไป โดยการเอามือสอดใต้ตัวลูก หากมือเข้าไปแล้วลำบากมากไม่เวิร์คก็ควรเลือกที่พอดี ไม่ให้ลูกนอนคว่ำแล้วเกิดปัญหาขาดอากาศหายใจ

4. ไม่ควรใช้เตียง หรือที่นอนที่เก่าเกินไป

หากใครที่คิดจะเลือกซื้อเตียง หรือที่นอนรูปแบบของมือสอง หรือของเก่า แนะนำว่าอย่าเลือกให้เก่าเกินไป เพราะอาจจะมีการนอนหลับไม่เต็มที่ หรือกระดูกอาจจะผิดรูปผิดโครงสร้าง ทั้งอาจจะเกิดปัญหาของแบคทีเรีย ไวรัส ฝุ่น ไรที่นอนตามมา กลายเป็นโรคต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับตัวลูกได้

เชื่อว่าหลังจากนี้การเลือกใช้งานเตียงเด็ก ที่นอนของผู้ปกครอง คุณพ่อคุณแม่คงจะตัดสินใจง่ายมากขึ้น และสามารถเลือกซื้อได้เหมาะสม ตอบโจทย์การนอนหลับของลูกน้อย ตื่นเช้ามาสดชื่น ไม่เป็นปัญหาต่อสุขภาพในอนาคตตามมาได้ ซึ่งปัจจุบันมีของมือ 1 ใหม่ ๆ ให้เลือกทั้งเตียงและที่นอนมากมาย ในราคาที่สบายกระเป๋า ก็อยากให้พิจารณาดูสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูก เพราะเรื่องการนอนหลับเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม